ปี 57 ซอฟต์แวร์ไทยโต แต่คนไอทีตกงานเป็นอันดับ 2

แปลกแต่จริง ! ปี 57 ?ตลาดซอฟต์แวร์ไทยโตเกิน GDP ของประเทศ เกือบ ๆ 6 เท่า
แต่ผลสำรวจคนสายคอม ฯ ตกงานมากสุดเป็นอันดับ 2

ข้อสงสัย ?

  1. เป็นเพราะคนหนุ่มสาวยุคใหม่ ไม่อยากก้าวเท้าเข้ามาในตลาดซอฟแวร์ ?ไม่อยากเป็นโปรแกรมเมอร์, SA, Tester, PM ฯลฯ แต่หันไปทำงานสายคอมด้านอื่น จนล้นตลาด หรือไม่?
  2. หรือระบบการศึกษาไทยมีปัญหาอย่างหนัก ผลิตบุคลากรที่จบออกมา ไม่ตรงกับความต้องการตลาดด้านคอม หรือไม่ ?

ถ้าใครได้อ่านข่าวที่เสนอโดย?http://campus.sanook.com/
ได้อ้างถึง ผลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่างานสายคอม?ฯ มีคนตกงานมากสุด เป็นอันดับ 2

5 อาชีพ ที่คนตกงานมากสุดปี 2557 ได้แก่

  • อันดับ 1 คือ อาชีพที่เกี่ยวกับการบริหารธุรกิจ/บริหารการพาณิชย์
  • อันดับ 2 คือ สายงานคอมพิวเตอร์
  • อันดับ 3 คือ สายวิศวกร
  • อันดับ 4 คือ สังคมศาสตร์
  • อันดับ 5 คือ สายมนุษยศาสตร์

คนที่กำลังเรียนสายคอม เมื่อเห็นผลสำรวจแล้ว ก็คงตกใจ แทบอยากจะเปลี่ยนสาขาเรียนทันที
แต่ทว่ามันช่างสวนทางกับตัวเลขการเติบโต ของตลาดซอฟแวร์ไทย เสียนี้กระไร

ข้อมูลต่อจากนี้?เป็นผลการสำรวจของ?ซิป้า?ร่วมกับ ทีดีอาร์ไอ?ซึ่งได้แสดงมูลค่าตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ของไทยในปี พ.ศ. 2556 และคาดการณ์เมื่อสิ้นปี 2557 ?(เผยแพร่เมื่อ 8 สิงหาคม?2557) รายละเอียดดังรูปข้างล่าง

SOFTWARE-survey1

Photo Credit : http://marketeer.co.th/2014/08/software/


SOFTWARE_survey2

Photo Credit : http://marketeer.co.th/2014/08/software/


software-survey-2013-overview

Photo Credit : http://tdri.or.th/tdri-insight/software-survey-2013/

สรุป

  • ตลาดซอฟต์แวร์และบริการของไทยปี 2557 จะชลอตัวลงมาก เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ เพราะเหตุความวุ่นวายทางการเมือง?ทำให้หน่วยงานราชการหลายแห่งถูกปิดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา?รวมทั้งปัญหาความล่าช้าในการตรวจรับงาน และการจัดซื้อซอฟต์แวร์และบริการ เนื่องด้วยมีการเปลี่ยนผู้บริหารหรือคณะกรรมการในรัฐวิสาหกิจและราชการ
  • ถึงอย่างไรก็ตาม เป็นที่คาดการณ์ว่า ตลาดซอฟต์แวร์และบริการของไทยปี 2557 จะมีมูลค่าเติบโต 8.6 % สูงกว่า GDP ของประเทศที่เติบโตเพียง 1.5 % (หรือมากกว่า 5.73 เท่า หรือเกือบ ๆ 6 เท่า)
  • ตลาดใหญ่สุดคือภาคเอกชน คิดเป็น 2 ใน 3 ส่วนภาคราชการคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 1 ใน 3 ของมูลค่าตลาดซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ (ไม่รวมซอฟต์แวร์สมองกลฝังตัว)
  • ถ้าแยกเป็น การผลิตซอฟต์แวร์กับบริการซอฟต์แวร์?…บริการซอฟต์แวร์จะมีมูลค่ามากกว่า ซึ่งสวนทางกับการผลิตซอฟต์แวร์ที่มีอัตราการเติบโตที่สูงกว่า

ในผลการสำรวจ ยังกล่าวสรุปอีกว่า

มูลค่าการผลิตซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ รวมทั้งซอฟต์แวร์สมองกลฝังตัวของไทยจะเติบโตต่อเนื่องแม้จะชะลอตัวลงบ้างในปีนี้ ?และจะสามารถเติบโตเพิ่มขึ้นได้อีกมากในอนาคต หากสามารถแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากรที่มีคุณภาพในทุกด้าน

ส่งท้าย

  • ภายในสิ้นปี 2557 ตลาดซอฟต์แวร์ไทยยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง เรียกว่าโตมากกว่า GDP ของประเทศเสียอีก ?แสดงว่าตลาดซอฟแวร์และบริการ ยังสดใส
  • แต่ทว่าคนสายคอมกลับตกงานมากที่สุด เป็นอันดับ 2 ?…มันเกิดอะไรขึ้น ?
  • ยิ่งล่าสุด ผมเห็นกระทรงไอซีที จะเปลียนชื่อเป็น “กระทรวงดิจิตอล อีโคโนมี”?หวังว่าคงเห็นการเปลี่ยนแปลงในวงการนี้นะครับ

เพิ่มเติม

ต่อไปนี้เป็นวิเคราะห์ของสมาชิกเฟสบุคชื่อคุณ Akelove Ake วิเคราะห์ได้ดีมาก เลยขออนุญาตินำมาลง ไม่มีการตัดตอนใด ๆ ครับ

ต้องเข้าใจก่อนว่ายอดมูลค่าตลาดที่เห็น มันเป็นยอดของบริษัทรายใหญ่ ซึ่งจ้างคนไม่กี่คน เมื่อเทียบกับเเรงงานสายคอมทั้งประเทศ

สาเหตุที่ตกงานกัน ขอวิเคราะห์เฉพาะสายพัฒนาระบบก่อน คือเพราะ

  1. งานที่พัฒนาเเบบสร้างระบบขึ้นมาเฉพาะให้กับลูกค้าเเต่ละรายถูกเเย่งลูกค้าไป จากพวกซอฟต์เเวร์สำเร็จรูป เเทนที่จะจ้างคนมาทำระบบเสียเงินมาก ไปใช้โปรแกรมสำเร็จรูปกกว่า ยังไม่รวมลูกค้ารายย่อย ที่ใช้โปรแกรมเถื่อน เช่น ระบบบัญชีสำนักงาน ระบบคลังสินค้า เเผ่น 150 บาท ส่วนพวกเว็บก็เจอพวกเว็บให้ทำเว็บฟรี มาชน อีก งานเลยลดลงไป
  2. ปัจจุบันมีการผูกขาดการค้าจากส่วนกลาง ตัวอย่าง ในส่วนราชการ เมื่อก่อนหน่วยงานภูมิภาคระดับจังหวัด ถ้าจะพัฒนาระบบหรือเว็บก็จ้างหนึ่งสัญญาด้วยงบไม่มาก ใช้ในจังหวัดตัวเอง โดยจ้างบริษัทหรือคนในพื้นที่ให้พัฒนา เช่น ถ้ามี 77 จังหวัด ก็จะมีการจ้างงาน 77 งาน บริษัทเล็ก ๆ จึงมีงานส่วนราชการเข้ามา มีการจ้างคน
    เเต่ตอนนี้ เขาใช้วิธีส่วนกลางทำสัญญากับบริษัทใหญ่ที่กรุงเทพให้พัฒนาระบบด้วยวงเงิน ก้อนโต ทำมาทีใช้ทั้งประเทศ งานเล็ก ๆ ก็หมดจาก 77 งานเหลือ งานเดียวซึ่งบริษัทใหญ่ที่ใกล้ชิดส่วนกลางได้งานไป เเละหน่วยงานภูมิภาคต้องไปใช้ระบบจากส่วนกลางหมด พวกงานทำเว็บ ทำระบบ,ฐานข้อมูลระดับกลาง ๆ เล็ก ๆ ตามต่างจังหวัดก็หมดไป บริษัทปิด การจ้างงานไม่มี
    ซึ่งงานส่วนนี้หายไปมากเพราะลองคำนวนอย่างพาณิชย์จังหวัด เกษตรจังหวัด สำนักงานจังหวัด ฯลฯ มีทุกจังหวัด ถ้าเมื่อก่อนจ้างทำระบบจังหวัดละงาน งานสาย it ที่จะป้อนให้กิจการ it ภูมิภาคก็มีเป็นพัน ๆ งาน ตอนนี้ยุบเหลือ กรมละ 1 งาน ก็เท่ากับงานหายไปหลายพันงานเลย บริษัทภูธรที่ไม่มีงานก็ปิดไป คนก็ตกงาน
  3. จากข้อสอง เมื่องานราชการน้อยลง ก็ต้องมาเเย่งรับงานเอกชนเล็ก ๆ เช่น ทำเว็บ ทำระบบให้ร้านค้าเล็ก ๆ เช่น ร้านทอง ร้านขายของ คอนโด ฯลฯ เมื่อลงมาเเย่งงานกันมากก็เเข่งราคาถูกกันลงเรื่อย ๆ เเละลูกค้ารายเล็กงบก็ไม่มาก เเละก็ไม่จ้างบ่อย ทำเเล้วก็เเทบจะใช้กันไปยาวเลย ดังนั้นเมื่อรายได้จากลูกค้าราชการก็ไม่มี เเถมรายได้จากลูกค้าเอกชนก็ตัดราคากัน กระจายเเย่งลูกค้้ากัน การจ้างงานของบริษัท it กลาง ๆ – เล็ก ๆ ก็น้อยลงมาก
  4. เมื่อบริษัทเอกชน ภูธร ขนาดกลาง ขนาดเล็ก อยู่ไม่ได้ หรือ จะรับงาน freelance ก็ตัดราคากันเเย่งลูกค้ากัน สุดท้ายก็ไม่พอกินกัน ก็เหลือทางเลือกคือ วัดกันใครสอบเข้าไปทำงานบริษัทมั่นคงได้ หรือไปสอบบรรจุเข้าหน่วยงานต่าง ๆ ได้ก็ดีไป เเต่ตำเเหน่งว่างก็มีไม่มากเมื่อเทียบกับที่สถานศึกษา นโยบายรัฐ ส่งเสริมให้คนเรียน it จบมามากมาย เเต่ไม่มองเรื่องตลาดเเรงงาน”

ข้อมูลอ้างอิง

เขียนโดย แอดมินโฮ โอน้อยออก